
จากกรณีความคืบหน้าของพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ที่ได้เชิญตัว นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริญ หรือ "ดีเจเก่ง" และนายกวินกาญจน์ ศรีฤาชา คู่กรณี เพื่อนำกล้องวงจรปิดของ กทม.มาเปิดให้ทั้งสองฝ่ายดูเพื่อให้ความเป็นธรรม
ซึ่งผลสรุปว่ารถกระบะซึ่งดีเจเก่งได้ขับนำรถเก๋งโตโยต้ายารีส ที่นายกวินกาญจน์เป็นผู้ขับ โดยรถทั้งสองคันขับมาตามถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมิตรไมตรี ทางรถเก๋งได้ขับแซงออกมาเลนขวาสุด ซึ่งเป็นเลนสวนเพื่อแซงรถกระบะ แต่ทางรถกระบะไม่ให้เข้า ทำให้รถเก๋งไม่สามารถเข้าได้ และต้องจอดอยู่เลนขวาสุดข้างรถกระบะอยู่หลายนาที จากนั้นเมื่อการจราจรเคลื่อนตัวทางรถเก๋งได้แทรกเข้าไปหลังรถกระบะ แล้วมีการจอดรถ โดยนายกวินกาญจน์ลงจากรถแล้วเดินไปหารถกระบะที่จอดอยู่ข้างหน้าตรงนี้กล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์เคาะกระจกรถไม่ได้ ไม่นานนายกวินกาญจน์ก็กลับมาขึ้นรถ ก่อนที่รถกระบะได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าเล็กน้อย และถอยมาชนใส่ทันที 1 ครั้ง เมื่อรถทั้งสองขับออกไปหลุดจากกล้องวงจรปิด ก็เกิดการถอยชนอีก 2 ครั้งตามภาพคลิปวีดีโอที่แพร่หลายออกไป
ซึ่งทางพล.ต.ต.วิชาญญวัชร์ กล่าวว่า นายกวินกาญจน์ต้องมีความผิดในข้อหาแซงรถในที่คับขัน มีโทษปรับระหว่าง 400-1,000 บาท ในคดีนี้ก็จะปรับในอัตราโทษสูงสุดคือ 1,000 บาท ส่วนดีเจเก่งนั้น นอกจากข้อหาเดิม คือ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ไปพบผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทโตโยต้า จำกัด ประเทศไทย ซึ่งได้วิเคราะห์ว่าการถอยรถชนในระยะ 5 เมตรนั้นไม่ทำให้ระบบถุงลมทำงาน จึงไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต
สำหรับเรื่องการหมิ่นประมาทโดยนำเข้าข้อความในอินเทอร์เน็ตนั้น เจ้าหน้าที่พบว่าผู้โพสต์คือนักข่าวจากช่องดีเอ็นเอ็นโพสต์เข้าระบบเฟสบุ๊กไป และเป็นการถ่ายตามเหตุการณ์ที่พบเห็น จึงไม่ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท ขณะที่คดีทำให้เสียทรัพย์เมื่อคู่กรณีไม่ติดใจเอาความก็ถือว่าคดีสิ้นสุดไป
ที่มา:http://www.news-lifestyle.com/contents/147889/