
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า พระราชกฤษฎีกาลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2559 โดยผู้ประกอบการนิติบุคคลที่รายได้ปี 2558 ไม่เกิน 500 ล้านบาท ที่จะเข้าโครงการให้มาลงทะเบียนกับกรมสรรพากรตั้งแต่ 15 ม.ค. – 15 มี.ค.นี้
นอกจากนี้ นิติบุคคลที่อยู่ระหว่างกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีก็สามารถมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ โดยสรรพากรจะดำเนินการเฉพาะส่วนที่ตรวจสอบอยู่เดิมเท่านั้น จะไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากที่ดำเนินการอยู่
ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท คิดเป็น 98% ของนิติบุคคลที่อยู่ในระบบภาษี ในจำนวนนี้เป็นนิติบุคคลที่เป็นกิจการเอสเอ็มอีมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท รายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท อยู่ 81% หรือ ประมาณ 3.4 แสนราย คาดว่าจะมีนิติบุคคลมาเข้าร่วมโครงการไม่ตรวจสอบภาษีย้อนหลังประมาณ 30% หรือกว่า 1 แสนราย
นอกจากนี้นายประสงค์ยังกล่าวอีกว่าจะเสนอการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในไตรมาสแรกปีนี้ให้มีผลบังคับใช้สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2560 ที่จะยื่นแบบและเสียภาษีในปี 2561
“รายละเอียดการปรับเปลี่ยนยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ยืนยันว่าภาษีใหม่จะทำให้ทุกคนมีความสุข เพราะได้รับประโยชน์กันทุกคน ปรับอัตราทั้งหมด ไม่มีใครเสียมีแต่ได้ จะขยับเพิ่มสำหรับผู้ที่มีรายได้ 2 หมื่นบาทต่อเดือนอีก กำลังพิจารณาอยู่แต่คงไม่เกิน 3 หมื่นบาท เพราะสูงเกินไป”